ถ้าพูดถึงกระบวนการคัดสรรพนักงาน บุคลากรหางาน หาพนักงาน ถือเป็นการดูแลของฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือฝ่าย HR นั่นเอง การหาคนนั้นจุดประสงค์หลักๆ ก็เพื่อที่จะคัดสรรคนที่เหมาะสมและมีความรู้ความสามารถ ตรงตามที่องค์กรกำหนดได้เข้ามาร่วมทำงานเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร นอกจากนี้หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหางาน การสร้างทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน รวมถึงแนวความคิดการทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่ง จะช่วยให้เกิดแรงจูงใจสร้างศักยภาพในตัวเอง รวมถึงทำให้ผู้คัดเลือกมองเห็นความสามารถของคุณที่เป็นมืออาชีพมากขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่าในส่วนขององค์กรเองก็มีสิทธิ์ที่จะคัดเลือกคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นมากที่สุด และก็เช่นเดียวกันคนหางานก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจได้ว่าตำแหน่งงานนั้นมีความเหมาะสมกับตนเองหรือไม่ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานขององค์กรนั้นๆ ด้วย ว่าทำให้คุณมีความรู้สึกอยากที่จะเข้าไปทำงานร่วมด้วยหรือไม่
การ รับสมัครพนักงาน จากผู้สมัครงานภายใน (Promotion From With-in) ถือได้ว่าเป็นกระบวนการสรรหาคนในองค์กรที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ ซึ่งโดยปกติแล้วการคัดเลือกคนในองค์กรก่อนเป็นที่นิยมอย่างมาก ที่บริษัททั่วไปนิยมใช้เพราะนอกจากที่จะได้พนักงานเดิมที่มีความรู้ความสามารถแล้วนั้น โดยรวมมีประสบการณ์ในการทำงานตรงจากองค์กรเดิมอยู่แล้วด้วย ถือเป็นการมอบขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานที่มีความขยัน ให้มีโอกาสเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งงานอีกด้วย รวมถึงเป็นแรงจูงใจให้พนักงานที่ทำงานดี ทำงานอยู่กับองค์กรไปนานๆ
การหาพนักงานจากผู้สมัครงานภายนอกองค์กร โดยปกติแล้วองค์กรส่วนใหญ่ก็จะฝากประกาศงาน ไว้ทางสังคมออนไลน์ต่างๆ อย่างเช่น เว็บไซต์หางานยอดนิยมที่ปัจจุบันมีให้เลือกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้ก็จะมีฐานข้อมูลของผู้สมัครงานที่เข้าไปฝากประวัติเอาไว้ ข้อมูลส่วนนี้เองที่ทางองค์กรต้องการ เพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูลดูว่ามีผู้สมัครงานคนไหนบ้าง ที่มีความน่าสนใจและมีคุณสมบัติตรงตามที่องค์กรกำหนดมากที่สุด หรือหากองค์กรไหนอยากที่จะประหยัดเวลาและอยากได้คนทำงานที่ตรงกับความต้องการเลย ก็อาจจะไปใช้บริการบริษัทจัดหางาน ให้บริษัทเหล่านั้นทำการรับสมัครงานและคัดกรองผู้สมัครงานเบื้องต้นให้เรียบร้อย ก่อนที่จะส่งผู้สมัครงานเหล่านั้นมาสัมภาษณ์งานรอบสุดท้ายกับองค์กรอีกครั้งก่อนตัดสินใจรับเข้าทำงาน
เว็บไซต์หาพนักงาน สำรวจความต้องการของตลาดแรงงาน
อย่างที่ทราบกันดีเมื่อองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ต้องทำการคัดเลือกบุคลากรผ่าน เว็บไซต์หาพนักงาน เพื่อเข้ามาทำงานร่วมกับคนในองค์กรก็ตามแต่ สิ่งที่พวกเค้าคาดหวังก็คือ การได้คัดสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพ มีความสามารถและประสบการณ์ ตรงตามที่องค์กรกำหนดรวมถึงมีแนวทางการทำงานที่เหมาะสมกับองค์กรอีกด้วย แต่ปัญหาที่องค์กรและบริษัทส่วนใหญ่ต่างต้องพบเจอ ในระหว่างขั้นตอนการสรรหาบุคลากรเข้ามาร่วมทำงานกับองค์กรนั้น สำหรับในส่วนของข้อมูลรายละเอียดที่ฝ่ายคัดเลือกหรือ HR ต้องพบเจอกัน จะเป็นในส่วนของข้อมูลผู้สมัคร ที่เมื่อมีการนัดสัมภาษณ์พูดคุยแล้ว ไม่เป็นไปตามในรายละเอียดของใบสมัครงาน
ยกตัวอย่างเช่น อาจมีการระบุไว้ในประสบการณ์ในการทำงานทางด้านนี้มา แต่เมื่อมีการสัมภาษณ์งานและลงรายละเอียดของการทำงาน ก็จะทราบทันทีเลยว่าประสบการณ์ที่ผู้สมัครงานคนนั้น ได้เคยผ่านงานทางด้านนั้นมาแล้วอาจจะเป็นแค่ผิวเผิน หรือไม่ได้ลงลึกในตัวของรายละเอียดเนื้องานการทำงานจริงเลย ดังนั้นจากปัญหาเหล่านี้ทำให้ฝ่าย HR กับผู้สมัครงานต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่าย ในการนัดสัมภาษณ์งานแล้วข้อมูลไม่ตรงกับที่แจ้งเอาไว้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้แน่นอนว่าฝ่าย HR ต้องเคยเจอมาบ่อย เพราะผู้สมัครงานก็อยากที่จะได้งาน ดังนั้นในใบสมัครงานจึงเขียนรายละเอียดและผลงานอย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คัดเลือกนั่นเอง
ช่องทางหาพนักงาน เกณฑ์การคัดเลือกพนักงานของฝ่าย HR
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้แนวโน้มในการคัดสรรค์คนเข้าทำงานกับองค์กรนั้น มี ช่องทางหาพนักงาน ให้ผู้สมัครงานได้เลือกหลากลาย แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคล แต่ในส่วนขององค์กรส่วนใหญ่เองก็มีการปรับรูปแบบและกลยุทธ์ในการสรรหาคนเข้ามาทำงานมากขึ้น เพราะหากไม่พัฒนารูปแบบการหาคนให้มีความทันสมัย ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมในการสรรหาคนที่ขาดประสิทธิภาพ แน่นอนว่าจากผลการวิจัยในปัจจุบันพบว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันของรูปแบบการหาคนที่ฝ่าย HR ขององค์กรส่วนใหญ่ทำการคัดเลือกนั้น มีแนวโน้มที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ปัจจุบัน 90% องค์กรส่วนใหญ่ไม่ได้มีโอกาสในการเลือกคนเข้าทำงานอีกต่อไป แต่เป็นคนหางานและผู้สมัครงานที่เลือกองค์กรต่างหาก
ดังนั้นเป็นเรื่องที่ยากที่เหล่าองค์กร บริษัทหรือห้างร้านในปัจจุบัน ที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการหาคนนานมากยิ่งขึ้น รวมถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แนวความคิดการมองหางานของเด็กรุ่นใหม่ ก็มีความเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยไปด้วย ยิ่งหากกลุ่มคนเหล่านั้นมีความรู้ความสามารถด้วยแล้ว พวกเค้าก็ยิ่งต้องการทำงานร่วมกับองค์กรที่มีศักยภาพและมีผลตอบแทนให้กับพวกเค้าอย่างสมเหตุสมผล ทำให้ทุกวันนี้หลายองค์กรต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถึงขนาดจะต้องคิดหาวิธีที่จะดึงคนรุ่นใหม่ เข้ามาทำงานร่วมกับองค์กรให้ได้ ไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน รวมไปถึงการมอบสวัสดิการณ์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อดึงดูดใจให้กลุ่มคนเหล่านั้น หันมาสนใจและสมัครงานกับองค์กรอีกด้วย
หาพนักงานไม่จำกัดวุฒิ อยากได้คนมีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร
จากแนวโน้มและทิศทางของกาหางานล่าสุดมีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การเปิดรับสมัครงานหรือ หาพนักงานไม่จำกัดวุฒิ ก็เริ่มมีมากขึ้น โดยหลายองค์กรเริ่มไม่เน้นที่วุฒิการศึกษาเป็นหลัก อาจจะเน้นที่ประสบการณ์ในการทำงานเป็นตัวตัดสิน ว่าบุคคลเหล่านั้นสามารถทำงานให้กับองค์กรได้ จึงตัดสินใจที่จะรับคนเหล่านั้นเข้ามาทำงาน การที่จะดึงผู้สมัครงานที่มีความสามารถเข้ามาทำงานร่วมกับองค์กรนั้น เป็นสิ่งที่ผู้บริหารและฝ่าย HR จะต้องวางแผนร่วมกัน เพื่อให้การหาพนักงานในครั้งนั้นๆ เป็นไปในทิศทางที่องค์กรกำหนด รวมถึงการกำหนดเป้าหมายคนสมัครงานที่เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นระยะยาวในอนาคตได้
หาพนักงานไม่จำกัดอายุ การคัดกรองคนเข้าทำงานขององค์กรยุคใหม่
โดยทั่วไปแล้วหากเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงหรือได้รับความสนใจจากคนหางานเป็นจำนวนมาก การคัดกรองผู้สมัครงาน หาพนักงานไม่จำกัดอายุ ก็จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของผู้สมัครงานเป็นหลัก เพราะบางครั้งบางตำแหน่งงานอาจต้องการผู้ที่มีวุฒิทางด้านการทำงานสูง เพื่อเข้ามาทำงานหรือบริหารงานร่วมกับองค์กรได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่อาจจะมีผู้บริหารหรือหัวหน้างานบางคน ที่อายุเยอะแล้วแต่มีความสามารถ ก็ยังมีองค์กรอีกมากมายต้องการตัว เพื่อให้พวกเค้าเหล่านั้นเข้ามาบริหารการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากกล่าวถึงคำว่าประสบการณ์ของผู้สมัครงาน ก็จะเป็นในเรื่องของภาพรวมการทำงานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เมื่อความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ได้เข้ามามีบทบาทต่อกลุ่ม หาคนทำงาน อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือที่เชื่อมต่อสังคมออนไลน์ก็ตาม ถือเป็นอาวุธที่สำคัญในการแข่งขันของตลาดคนหางาน ดังนั้นหากคุณอยากที่จะอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน การปรับตัวเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถือว่าสำคัญ เพราะหากคุณไม่รู้จักที่จะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาตนเอง โอกาสที่จะโดนเด็กรุ่นใหม่ตัดหน้าก็มีโอกาสสูงมากยิ่งขึ้น และอาจจะมีผลทำให้องค์กรเหล่านั้นเลิกจ้างคุณก็เป็นได้ สุดท้ายนี้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนงานหรือมองหางานใหม่ก็ตาม อย่าลืมที่จะคิดทบทวนสักนิดว่า การปรับเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ มันช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้นหรือไม่ ก็หากเปลี่ยนไปแล้วโอกาสที่จะเจอสังคมการทำงานแบบเดิม หรือสภาวะแรงกดดันแบบเดิม การเปลี่ยนงานของคุณก็จะไร้ความหมายทันที