ก่อนที่คุณจะ หางานคลังสินค้า แต่ละครั้งจะต้องเตรียมความพร้อมในหลายด้าน รวมทั้งในเรื่องของเอกสารต่างๆ เพื่อที่ผู้สมัครงานจะสามารถนำไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ในวันสัมภาษณ์งาน หรือวันที่จะต้องเข้าไปพูดคุยกับองค์กรนั้นๆ
จะเห็นได้ว่าด่านแรกของการสมัครงานนั้น คือการที่ผู้สมัครงานจะต้องกรอกรายละเอียดในส่วนของเรซูเม่ให้ชัดเจน เพราะเมื่อคุณทำการยื่นเอกสารการสมัครงาน เอกสารตัวนั้นจะเป็นรายละเอียดสำคัญที่แจ้งให้ผู้คัดเลือกทำการทราบข้อมูลของคุณเบื้องต้น มันเปรียบเสมือนเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะก้าวสู่ขั้นตอนต่อไป
การเพิ่มโอกาสในการหางานนั้นคือ ผู้สมัครงานควรมีความรู้ความเข้าใจในตำแหน่งงานนั้น เพราะหากว่าคุณสมบัติของคุณไม่ตรงกับตำแหน่งงานที่ได้สมัครไป เมื่อก้าวเข้าไปทำงานร่วมกับคนหมู่มากในองค์กร ก็จะส่งผลกระทบทางด้านอื่นๆ ตามมาอีกด้วย ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าผู้สมัครงานทั้งหลาย ก็ต่างให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำโปรไฟล์สมัครงานของตนเอง ให้มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งขันคนอื่นๆ เพื่อให้ผู้คัดเลือกได้มองเห็นความสำคัญในใบสมัครงานของคุณ นอกจากนี้หากคุณอยากที่จะประสบความสำเร็จในการมองหางาน ก็อย่ามองข้ามถึงความสำคัญในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ต่อตนเอง ต่อการทำงาน และองค์กรที่คุณจะก้าวเข้าไปทำงานในอนาคตได้อีกด้วย
ข้อมูลในเรซูเม่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
– ประวัติส่วนตัว แน่นอนว่าในการสมัครงานแต่ละที่ผู้คัดเลือกจะทำการอ่านข้อมูลรายละเอียดของผู้สมัครงานเบื้อนต้น ว่ามีความเหมาะสมกับองค์กรมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในส่วนของข้อมูลในเอกสารการสมัครงานนั้น ประวัติส่วนตัวก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองของผู้สมัครงาน เพราะข้อมูลเหล่านั้นจะบอกเกี่ยวกับชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ รวมถึงอายุ เพศ และรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมเฉพาะตัวอีกด้วย
– ประวัติการศึกษา ในส่วนนี้จะเป็นการบอกรายละเอียดรวมถึงพื้นฐานของการศึกษา ว่าคุณได้ผ่านการศึกษาขั้นพื้นฐานทางด้านสายงานนั้นมาจริง เพราะฉะนั้นเมื่อคุณได้มีโอกาสก้าวเข้าไปทำงานร่วมกับคนหมู่มากก็จะช่วยลดปัญหาในเรื่องของความรู้ ความสามารถไปได้ เพราะหากผู้สมัครงานไม่มีพื้นฐานความรู้ทางด้านสายงานนั้นมาเลย ก็อาจจะเกิดผลกระทบตามมาเมื่อมีโอกาสได้ก้าวเข้าไปทำงานร่วมกับองค์กรนั้นๆ อีกด้วย ดังนั้นก่อนที่ผู้สมัครงานจะตัดสินใจส่งใบสมัครงานไปที่ไหนก็ตาม ลองมองย้อนกลับมาดูตนเองก่อนว่า คุณมีความรู้ความสามารถมากน้อยแค่ไหน รวมถึงมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ หรือไม่อีกด้วย
– ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ในการทำงานถือเป็นข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยผู้คัดเลือกให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายดายยิ่งขึ้น เพราะหากว่าผู้สมัครงานท่านใดเคยผ่านประสบการณ์ในการทำงานทางด้านสายงานที่กำลังเปิดรับสมัครงานอยู่นั้น ก็จะยิ่งช่วยให้การทำงานของคุณนั้นง่ายดายยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางในการเลือกคุณสมบัติที่มีความเหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด
– ความสามารถพิเศษเพิ่มเติม บางครั้งในส่วนของความสามารถพิเศษเพิ่มเติม ไม่ว่าจะมาจากการฝึกฝนหรือมาจากการอบรม ศึกษามาก็ตาม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประโยชน์ที่จะทำให้คุณมีความโดดเด่นอยู่เหนือกว่าคู่แข่งขันคนอื่นๆ บางครั้งอาจจะมีผู้สมัครงานหลายคน สมัครงานเข้ามาพร้อมกัน คุณสมบัติ ประสบการณ์ รวมถึงฐานเงินเดือนที่เรียกก็พอๆ กัน แต่เมื่อถึงเวลาที่ทางองค์กรจะต้องตัดสินใจเลือก ก็อาจจะใช้ข้อมูลในส่วนของความสามารถพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม มาเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจอีกด้วย
– ข้อมูลการติดต่อ สำหรับส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก บางครั้งผู้สมัครงานหลายคนตกม้าตาย กำลังจะได้งานทำแล้วทีเดียว แต่ดันให้ข้อมูลการติดต่อผิด หรือพลาดใส่เกิน ก็อาจจะมีผลต่อการได้งานก็เป็นได้ ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สมัครงานจะมองว่าไร้สาระ แต่ให้มองว่าบางครั้งมันอาจจะเป็นจุดเล็กๆ ที่คุณมองข้ามไม่ใส่ใจ แต่มันอาจจะมีผลต่อการได้งานก็เป็นได้
ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้ก้าวเข้าไปทำงานร่วมกับองค์กรในฝัน เพราะหากว่าข้อมูลด้านในของคุณไม่มีความน่าสนใจ หรืออ่านแล้วไม่สะดุดตา ก็อาจจะทำให้ผู้คัดเลือกนั้นคัดใบสมัครของคุณออกก็เป็นได้ ดังนั้นหากคุณไม่อยากรองานนานเกินไป ควรที่จะปรับเปลี่ยนใบสมัครงานบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ ที่สมัครก็เป็นได้